อนามัย
กระทรวงสาธารณสุข แนะวิธีการสั่งอาหารเดลิเวอรี(Delivery)
อย่างปลอดภัย ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
เน้นปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง
กินอาหารปรุงสุก เพื่อให้ปลอดภัยและห่างไกลจากโควิด-19
นายแพทย์สุวรรณชัย
วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระบาดใหม่ หลายคนหันมาสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี(Delivery) แทนการไปจับจ่ายซื้ออาหารจากตลาดนัด หรือห้างสรรพสินค้ากันมากขึ้น
เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อโควิด-19 กรมอนามัยจึงแนะนำ 4 ข้อป้องกัน ดังนี้
ผู้ประกอบการที่จัดบริการอาหารแบบเดลิเวอรี
ติดตามสถานการณ์และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันโรค
และให้ความรู้หรือประชาสัมพันธ์แก่ผู้ขนส่งอาหาร เมื่อไปส่งอาหารให้ลูกค้าขอให้ใช้วิธีการส่งอาหารแบบ Personal
distancing ยืนห่างจากลูกค้าอย่างน้อย 1 เมตร และห้ามวางอาหารบนพื้น
ร้านอาหารให้บริการอาหารในรูปแบบเดลิเวอรีร้านอาหารต้องสะอาด
ถูกสุขลักษณะ อาหารปรุงสำเร็จ ต้องปรุงสุกใหม่
สำหรับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ปรุงให้สุกด้วยความร้อนไม่น้อยกว่า 70 องศาเซลเซียส นานกว่า 5 นาที หลีกเลี่ยงการจำหน่ายอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก
ผู้ขนส่งอาหารเดลิเวอรีต้องลงทะเบียนกับผู้ประกอบการที่จัดบริการอาหารแบบเดลิเวอรี
สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือบ่อยๆ
ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าร้านอาหาร ก่อนและหลังการส่งอาหารให้ผู้สั่งซื้ออาหารด้วย
รวมทั้งหลังเข้าห้องส้วม หลังจับสิ่งสกปรก หรือจับเงิน และคอยสังเกตอาการตนเอง
หากมีอาการเจ็บป่วย มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ จมูกไม่ได้กลิ่น
ลิ้นไม่รับรสชาติ ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ทันที
ผู้สั่งซื้ออาหาร
หรือผู้บริโภค ให้จัดเตรียมภาชนะรองรับอาหาร เช่น กล่องหรือโต๊ะแบบพับได้
และให้ยืนห่างจากผู้ขนส่งอาหารอย่างน้อย 1 เมตร ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ
หลังการรับอาหารจากคนขนส่งอาหารและควรจ่ายค่าบริการโดยวิธี E-Payment หรือเตรียมเงินสดให้พอดีเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินทอน
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่สั่งอาหารแบบเดลิเวอรีงดรับช้อนส้อมพลาสติกเพื่อลดการสัมผัสและรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยในคราวเดียวกันโดยหันมาใช้อุปกรณ์ที่ใช้ซ้ำได้
เช่น ช้อนหรือส้อมที่บ้านแทน และก่อนที่จะทิ้งขยะพลาสติกก็ควรคัดแยกเศษอาหารออกก่อนเพื่อสามารถนำพลาสติกกลับมารีไซเคิลหรือใช้ซ้ำได้อีก
เป็นการลดโรคและรักษ์โลกไปพร้อมๆ กัน
ขอขอบคุณ
ข้อมูล: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข